เงินซื้อความสุขไม่ได้จริงหรือ...แล้วความสุขของคุณคืออะไร
เล่าประสบการณ์ของความอยากและมุมมองในเรื่องเงิน
เราขอแชร์ประสบการณ์ของเรานะคะ เเต่ก่อนเราปฏิเสทระบบทุนนิยม เกลียดเงิน เรากึ่งๆเเนวอนุรักษ์นิยมและเชื่ออย่างสุดใจว่าเงินคือความบาป จนช่วงหนึ่งเราออกไปใช้ชีวิต เราเปลี่ยนงานบ่อยมาก การเปลี่ยนงานก็ทำให้เงินหมดไปด้วย ไม่มีเงินเก็บซักบาท เราบอกตัวเองเสมอว่าเกลียดเงิน เเต่เรากลับต้องการมันตลอดเวลา ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆเเละเป็นทุกข์เพราะเงินมีใช้ไม่พอ ในวันนั้นเมื่อราวๆเดือน พ.ค. ปี 2560 เราจำได้ว่าเราลาออกจากงาน มีเงินติดตัวเหลือแค่หนึ่งพันบาท อาศัยห้องเพื่อนอยู่มาสองสามเดือน มีเพียงสองสิ่งที่ต้องเลือกคือ หางานใหม่ให้ได้ หรือ ใช้เงินนั้นซื้อตั๋วกลับบ้าน เราเป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในเมือง ทุกอย่างมันทุกข์มากเพราะเงินไม่พอใช้และมันมีอยู่เเค่นี้เอง เรายิ่งรู้สึกเกลียดเงิน จนเพื่อนที่ให้อาศัยห้องแบบฟรีๆมาตลอดอยู่ๆก็หยิบเงินให้พันกว่าบาทแล้วบอกว่าเอาติดตัวไว้ใช้ ตอนนั้นซาบซึ้งน้ำใจเพื่อนคนนี้จริง สัญญากับตัวเองเลยว่าจะรักเพื่อนคนนี้ทะลุชาติหน้าเลย เราตัดสินใจได้ทันที มันเหมือนจิตมันตื่นรู้...เราไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในตอนนั้นยังไง คิดว่านี่คือจิตใต้สึกนึกมันตื่นรู้จริงๆ เราตัดสินใจกลับบ้าน เราไม่เอาเงินที่เพื่อนยื่นให้ สิ่งที่เพื่อนทำต่อเรา...ทำให้เราตื่นรู้ว่า...เงินคือพลังงานแห่งอำนาจและความอิสระ คนต่างหากที่นำเงินมาใช้ตามลักษณะจิตใจที่เเตกต่างกันไปตามพื้นฐานนิสัยของเเต่ละคน คนดีก็ใช้เงินทำประโยชน์ คนไม่ดีก็ใช้เงินทำเรื่องไม่ดี เพื่อนของเราเป็นไกด์มีเงินเข้ามือตลอดเเละได้เงินมาก เค้าดูแลครอบครัวให้เงินที่บ้านใช้ไม่เคยขาด เค้าดูแลตัวเองด้วยการจ่ายค่าห้อง ค่าโทรศัพท์ ค่าโน้นนี่ในชีวิตประจำแบบที่เราไม่เคยเห็นเค้าบ่น เพราะเงินเค้ามีเก็บ มีเงินเข้ามืออยู่เสมอและเค้าก็ให้รางวัลตัวเองด้วยการช้อปปิ้งบ้าง ไปกินอาหารเเพงๆอร่อยๆบ้าง เราเห็นความมีน้ำใจ เห็นในสิ่งที่เค้าที่มีความสามารถในการดูแลคนอื่นๆ และเราเห็นอำนาจเเละความมีอิสระทางการเงินของเค้า เราจึงเข้าใจใหม่ว่า เงินไม่ใช่ความบาป เเต่มันคือความอุดมสมบูรณ์ สำหรับเรานะที่เริ่มคิดใหม่แบบนี้ เมื่อเรากลับบ้าน เราคุยกับตัวเองเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงิน เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดกับชีวิตตลอดมา เราถามตัวเราว่าอะไรคือความทุกข์และความสุขที่มีในชีวิตของเรา เราเข้าใจในส่วนของเรานะ สำหรับเรา...ความสุขคืออิสระ เพราะที่ผ่านมาเราอยากมีอิสระมันเลยทุกข์ อยากอิสระทางการเงิน ทางการงาน และอิสระในเรื่องของเวลา เราปฏิเสทเงิน เกลียดเงิน เเต่มีชีวิตภายใต้ข้อจำกัดหลายอย่างเพราะไม่มีอำนาจทางการเงิน เราเปลี่ยนความอยากเป็นคำว่าเเรงบันดาลใจและความฝันที่อยากประสบความสำเร็จ เราว่าความอยากมันไม่ได้ดูเป็นเรื่องความโลภหรือสิ่งบาป หากเรามีความอยากด้วยสติ เราเชื่อว่าถ้าคนเรามีความรู้ที่สูงกว่าความอยาก เราจะรู้วิธีการใช้ความอยากให้ถูกทาง เราเชื่อเรื่องความสมดุลไม่ว่าจะขาวกับดำ ดีหรือเลว เราเชื่อว่าธรรมชาติสร้างทุกอย่างมาสองด้าน ถ้าเราปฏิเสทความอยากแบบสุดโต่ง มันก็กลายเป็นว่าเราไม่มีความฝัน ไม่มีแพลนอะไรเลยในชีวิต เราพูดในสิ่งที่เราเป็นมาก่อน ตอนนี้เรามีความฝัน มีเเรงบันดาลใจ เราคิดว่าหากเราต้องการอะไร เมื่อมีความอยากหรือกิเลส สิ่งที่จะช่วยได้มันคือการมีความรู้ในทางธรรมเเละความรู้ในทางตรรกะ รู้ที่ควบคู่กันไปแบบนี้เราว่าก็น่าจะดีที่จะช่วยให้เราตัดสินใจที่จะทำอะไรเมื่อเกิดความอยาก เราเคยถามตัวเองมาตลอดช่วงเรียนมหาลัยจนจบและออกมาทำงานว่า "อะไรคือแรงบันดาลใจเเละความฝันของเรา" เราไม่เคยรู้ว่าเราต้องการอะไร เราไม่มีความอยาก เราใช้ชีวิตแบบไร้ความฝัน นั่นจึงเป็นเหตุให้เราไม่มีเงิน การที่อยู่แบบไม่มีความคิดสรรค์สร้าง มันทำให้เราไร้ความสามารถในการสร้างรายได้ สร้างความภาคภูมิใจในตัวเองเเละทำให้เราไม่มีอิสระทั้งที่สิ่งนั้นคือความสุขของเราเอง ตอนนี้เราทำงานที่บ้านเเล้วมีรายได้อย่างไม่คาดคิด ฮ่าๆ ที่สำคัญเราได้เงินดอลล่าห์ ฮ่าๆ เรากลายมาเป็นนักวาดภาพเเละขายงานให้ชาวต่างชาติ เรารักเงินแล้วล่ะ ฮ่าๆ เราขอบคุณเงินนะ ไม่เกลียดแล้ว ฮ่าๆ ตอนนี้เรามีอิสระอย่างที่ต้องการเพราะเราเจอความฝัน มีเเรงบันดาลใจเเละสนุกกับการอ่านหนังสือ เราไม่อยากทำงานกับใครหรือที่เราเปลี่ยนงานบ่อยๆเพราะเราชอบอ่านหนังสือ ฮ่าๆ เกี่ยวมั้ย...ถ้าเรารู้จักการสร้างตัวตนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความอุดมสมบูรณ์...เเค่สร้างภายในใจ ความคิด ความเชื่อ ฉันมั่นใจว่าคุณจะเจอทางออกของชีวิต คุณจะเกิดความสุขขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อแม้ว่าในชีวิตที่คุณอยู่ในเเต่ละวันมันจะมีปัญหา ทุกอย่างมันจะค่อยๆถูกจัดการให้สำเร็จไปทีละเล็กละน้อย ขอเพียงเเค่คุณรักษาใจของตัวเองให้อยู่อย่างสุข รักษาจิตใจภายในตัวคุณให้ชุ่มชื่นด้วยความรักที่มีต่อตัวเอง ฉันเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นทั้งเป็นกำลังใจที่ผลักดันให้คุณก้าวเดินต่อไปเเละเป็นเหมือนเพื่อนที่รู้ใจที่สุด การรักตัวเองก็เปรียบเหมือนกับการบำรุงรักษาจิตใจของตัวเอง ถ้าคุณรู้สึกต่อเงินด้วยความรัก เงินก็จะรักคุณ ฉันสัมผัสความรู้สึกนี้มาแล้ว เมื่อไรที่ฉันลองใช้ความรู้สึกสัมผัสเงินด้วยความรักและความสุข ฉันจะได้เงินเข้ามือมาตลอดเเละได้มาอย่างง่ายดาย มันง่ายกว่าการบอกรักใครสักคนซะอีก ฮ่าๆ ทุกอย่างมันต้องฝึก ต้องล้างความเชื่อที่มีอคติต่อเงิน ต่อคนที่ร่ำรวย ฉันรู้นะว่าคนเราชอบมองเงินเป็นเรื่องบาปหรือมองคนร่ำรวยในแง่ที่ไม่ดีนัก การมองแบบนั้นไม่ได้เรียกว่าเราเป็นคนอยู่แบบพอเพียงหรือเป็นคนดีที่ไม่มีความโลภ เเต่มันคือมุมมองแห่งความอิจฉา ฉันเคยเป็นมาก่อนจึงรู้ว่ามันเป็นยังไงแต่เมื่อฉันยอมรับว่า...ใช่...ฉันอิจฉาคนที่มีเงิน นั้นคือการปลดล็อคความรู้สึกแย่ๆที่มีต่อเงินในการเริ่มต้นที่จะล้างอคติต่อเรื่องนี้ คนที่มองคนอื่นแบบไร้ข้อเปรียบเทียบ ไร้อคติ ไร้การต่อว่าหรือไร้การกล่าวหาใส่ความผู้อื่นโดยไม่รู้ความจริงอันชัดเจน (พูดง่ายๆคือไม่รู้จักเค้าจริงๆแต่ก็พูดถึงเค้าในแง่ลบอย่างเป็นเรื่องเป็นราว) คนที่มองผู้อื่นด้วยข้อดีมาก่อนข้อเสีย หรือมองเพียงเเค่ข้อดี ส่วนข้อเสียก็ปล่อยเป็นเรื่องของเจ้าตัว...คนแบบนี้ต่างหากถึงจะน่าเคารพนับถือ
สิ่งที่ฉันกล่าวมานั้น...นั่นคือประสบการณ์ที่นำมาเล่า หากใครอยากลองทำแบบฉันดูละก็...ไม่หวงวิธีค่ะ ลองดูนะคะ ฉันว่ามันก็ไม่มีผลลบหรือผลกระทบต่อชีวิต ฉันอยากให้ผู้คนใช้ชีวิตแบบสนุก ใช้ชีวิตให้มันคุ้มค่า มีอิสระเเละรักตัวเองให้มากๆ
ลองดูนะคะ...
___________________________________________________
#เรื่องเงิน #ทัศนคติต่อเงิน #รักเงินอย่างไร #เรื่องเล่า #จิตวิทยา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น